ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนไทยมาก โดยในแต่ละปีมีแนวโน้มจำนวนผู้คนที่หันมาใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น ทุกเพศ ทุกวัยต่างก็มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเอาไว้คุย แชท โพสรูปภาพและบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ปรากฏสู่สาธารณะ จนถึงขั้นเป็นโรคติดโซเชียลกันเลยทีเดียว และยิ่งเราใช้งานเจ้าสมา์ทโฟนมากขึ้นเท่าไหร่ สิ่งที่จะตามมาก็คือพิษภัยหรือโรคอันตรายที่มาจากเจ้าเครื่องมือเล็กๆ ที่เราเอาแต่ก้มหน้าก้มตาถูๆ รูดๆมันนั่นเอง
วันนี้ทาง Thaimobi.com จึงอยากจะแนะนำวิธีการรับมือและระวังภัยที่เกิดจากสมาร์ทโฟน ซึ่งข้อเสียหรือภัยร้ายของสมาร์ทโฟนที่พบเจอมี 4 โรค ดังนี้
- ภัยที่เกิดขึ้นกับดวงตา ซึ่งการจ้องหน้าจอนานๆ จะทำให้ดวงตาของเราเมื่อยล้า หรือขนาดถึงขั้นตาเป็นต้อหรือบอดเลยก็ได้ ดังนั้นวิธีการรักษาถนอมดวงตาของเราก็คือบำรุงสายตาด้วยอาหารประเภทลูทีนที่ช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา ซึ่งพบมากในพืชผักสีเขียวเข้ม นอกจากนี้ยังมีมัลเบอรี่สกัดและเบต้าแคโรทีนที่พบมากในแครอทและฟักทอง
- นิ้วล็อค กล้ามเนื้อบริเวณคอและบ่าตึงเกร็ง แน่นอนการนั่งหรือก้มมองจอนานๆ อาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆแน่นอน ซึ่งวิธีการผ่อนคลายก็คือควรหมั่นบริหารร่างกาย และกำหนดเวลาหยุดพักการเล่นสมาร์ทโฟน โดยหากิจกรรมอื่นๆ ทำบ้าง เช่นการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายเกิดการเคลื่อนไหว และลดการนั่งท่าเดิมๆเป็นระยะเวลานานๆ
- เชื้อโรคร้าย โดยปัจจุบันพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของคนเราเปลี่ยนไปจากเดิมที่ใช้งานแค่โทรเข้า-ออก มาเป็นใช้นิ้วมือของเราปาดไป-มาที่หน้าจอมือถือ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเราควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ และควรล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ
- ความเครียด ซึ่งจะเกิดจากคนที่ชอบเล่นสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ทั้งใช้ทำงาน เช็ค E-mail ค้นหาข้อมูลและเล่นเกมส์ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าการกระทำเหล่านี้จะทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว(สังเกตุได้จากกรณีเมื่อแบตเตอรี่โทรศัพท์หมดจะทำให้เราหงุดหงิดและร้อนใจอย่างมาก) มีวิธีป้องกันก็คือ เราต้องหมั่นสำรวจตัวเองว่าเราติดสมา์ทโฟนมากเกินไปหรือเปล่า ซึ่งอาจจะต้องมีการกำหนดช่วงเวลาในการเล่นหรือใช้งานอย่างชัดเจน เมื่อไหร่ที่หยุดพักก็ควรหยุดใช้งานเลย และงดที่จะคิดถึงหรือถวิลหามันมากนัก
ทีนี้จากข้อแนะนำทั้ง 4 ข้อ แอดมินก็อยากจะให้เหล่าสาวกโซเชียลทั้งหลายที่รู้ตัวว่ากำลังติดเจ้าเครื่องสมาร์ทโฟนลองศึกษาและนำไปปฏิบัติดู เพื่อสุขภาพของทุกคนนะคะ