ก็จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับงาน Apple Special Event และถือว่าไม่ผิดจากที่มีข่าวลือออกมาเลย เพราะ Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone SE รวมถึง iPad Pro ขนาด 9.7 นิ้ว และสายใหม่ของ Apple Watch แต่ก็แอบมีเซอร์ไพรส์กันเล็กน้อยเพราะ iPhone SE นั้นมีหน้าตาเหมือน iPhone 5s เลยก็ว่าได้ แต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่สเปคที่มีลักษณะเหมือนกับ iPhone 6s ที่แรงและเร็วบนหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ดังนี้
- หน้าจอ Retina Display ขนาด 4 นิ้ว
- มาพร้อม iOS 9.3
- ใช้ชิป Apple A9 แบบเดียวกับ iPhone 6s แรงกว่า iPhone 5s 2 เท่า
- GPU ใหม่ ประมวลผลกราฟิคแรงกว่า iPhone 5s 3 เท่า
- มีชิปตรวจจับการเคลื่อนไหว M9
- รองรับ Hey Siri เปิดใช้งานตลอดเวลา ไม่ต้องกดปุ่มเรียก
- Bluetooth 4.2 / รองรับ LTE ความเร็วสูงสุด 150 Mbps / VoLTE / WiFi 802.11ac ความเร็วสูงสุด 433 Mbps / WiFi Call
- กล้องหลัง iSight 12 ล้านพิกเซล f/2.2 พร้อม Flash 2 สี และ Focus Pixels / รองรับการถ่ายภาพ Live Photos / ถ่ายวิดีโอ 4K / ถ่ายภาพพาโนรามาได้ที่ความละเอียด 63 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า iSight 1.2 ล้่านพิกเซล ใช้หน้าจอเป็น Retina Flash สว่าง 3 เท่า
- มี NFC รองรับ Apple Pay
- มี Touch ID
- ไม่มี 3D Touch
- วางจำหน่าย 2 รุ่นความจุ 16GB และ 64GB
- มีทั้งหมด 4 สี ขาว ดำ ทอง ชมพู
ส่วนประเทศแรกๆ ที่จะมีการวางจำหน่าย iPhone SE ก็มี ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, แคนาคา, นิวซีแลนด์ และประเทศอื่นๆ รวม 12 ประเทศ ส่วนประเทศไทยนั้นคงต้องใช้วิธีการสั่งซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านหรือที่เราเรียกกันว่า เครื่องหิ้ว นั้นเอง โดยประเทศที่ใกล้บ้านเราที่สุดคือ ฮ่องกง และ สิงคโปร์ โดยเริ่มเปิดจองกันแล้วตั้งแต่วันนี้ และจะเริ่มขายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ แต่ราคาของ iPhone SE อาจจะไม่ได้ถูกอย่างที่คาดกันไว้ เพราะถึงแม้ราคาเริ่มต้นที่อเมริกานั้นจะเริ่มต้นที่ $399 หรือประมาณ 13,900 บาท สำหรับรุ่น 16GB และ 17,400 บาทสำหรับรุ่น 64GB แต่ทั้งนี้เพื่อความแน่นอนก็ต้องรอราคาเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการนะคะ