ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งที่ต้องระวังมากในเรื่องของ ” แบตเตอรี่มือถือระเบิด ” เพราะผู้คนปัจจุบันที่เสพย์ติดโลกโซเชียลมักมีพฤติกรรมที่จะเป็นสาเหตุให้แบตมือถือระเบิด ดังนั้น Thaimobi.com จึงอยากจะแนะนำแนวทางป้องกันการระเบิดของแบตมือถือสำหรับผู้ใช้งาน ดังนี้
1. ชาร์ตแบตในที่อากาศปลอดโปร่งและถ่ายเทได้สะดวก ที่สำคัญควรจำไว้ว่ามือถือรุ่นใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องรอให้แบตเตอรี่หมดแล้วค่อยชาร์ต ดังนั้นเมื่อแบตเตอรี่ใกล้จะหมดก็ควรหยุดการใช้งานแล้วรีบชาร์ตโดยหาสถานที่ที่เหมาะสมด้วย
2. หลีกเลี่ยงการกดทับ เช่น ใส่มือถือไว้ในกางเกง เพราะถึงแม้ว่าแค่ครั้งสองครั้งอาจจะไม่เกิดปัญหา แต่หากมือถือโดนกดทับแรงๆ บ่อยๆ ก็อาจส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้การจ่ายไฟอาจลัดวงจรจนส่งกระแสไฟเข้าไปผิดพลาด หรือตัวเครื่องได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้
3. ควรใช้อุปกรณ์เสริมที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่และที่ชาร์ตแบตเตอรี่ และหากมือถือได้รับความเสียหายควรนำไปรับการตรวจสอบและแก้ไขโดยร้านที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
4. ควรใช้ของให้ถูกคู่กัน ไม่ควรสลับไปสลับมา อย่างเช่นสายชาร์ตตามหลักแล้วหากเป็นหัวเดียวกันมักจะสามารถใช้รวมกันได้จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าปลอดภัยเพราะกำลังไฟอาจไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นหากสลับไม่ได้ก็ควรใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานเสมอ
5. อย่าวางเครื่องไว้ในที่ร้อนเกินไป อย่างเช่นในรถยนต์ บนคอมพิวเตอร์ เพราะนอกจากจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมแล้ว อาจจะทำให้เกิดอันตราย รวมไปถึงอาจจะทำให้มือถือหรือแบตเตอรี่สำรองระเบิดได้
6. ตามหลักแล้วแบตเตอรี่ไม่ควรใช้เกิน 3 ปี แต่ความเป็นจริงคนเรามักจะใช้งานเกินอายุการใช้งาน ซึ่งขึ้นอยู่กับการรักษา ดังนั้นสิ่งเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับมือถือควรเช็คให้ละเอียด เช่น ตัวเครื่องร้อนไวกว่าปกติ มีอาการบวมของแบตเตอรี่ หรือมีกลิ่นเหมือนกลิ่นไหม้ลอยมาแตะจมูกขณะกำลังใช้งานก็ควรจะนำเครื่องออกห่างจากตัวเราหรือถ้าจะให้ดีก็ควรหยุดการใช้งานทันที